วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ทีมชาติไทยตกรอบเอเชี่ยนคัพ 0-4




การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย หรือ "เอเชี่ยนคัพ 2007" รอบแรกนัดสุดท้ายของกลุ่มเอ ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติออสเตรเลีย ที่สนามราชมังคลาฯ เมื่อเวลา 19.30 ของวันนี้ ผลการแข่งขัน ทีมชาติไทยไม่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้โดยพ่ายให้กับทีม "จิงโจ้" ออสเตรเลียไป 0 - 4 ตกรอบแรก ในขณะที่อีกคู่ (แข่งพร้อมกันที่สนามศุภชลาศัย) อิรัก เสมอกับ โอมาน 0 - 0 ทำให้อิรักผ่านเข้ารอบสองโดยเป็นที่ 2 ไปพร้อมกับออสเตรเลียที่เป็นที่ 1 ของสาย ซึ่งในรอบสองนี้ ออสเตรเลียจะเข้าไปพบกับเวียดนาม โดยจะแข่งกันที่ประเทศไทย ในขณะที่อิรักจะต้องพบกับญี่ปุ่นที่ประเทศเวียดนาม ใครรักใครชอบใครก็เชียร์กันต่อนะครับ
สำหรับผู้ทำประตูให้กับออสเตรเลียครั้งนี้ คือ
ไมเคิล บูชอง นาทีที่ 21 , มาร์ค วิดูก้า นาทีที่ 80 และ 84 ,ตามด้วย แฮรี่ คีเวลล์ นาทีที่ 90
โดยที่ Man of the match คือ มาร์ค วิดูก้า

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

10 อันดับ มหาเศรษฐีไทย ปี 2550

วันนี้ผมมีข่าวสารมาแจ้งให้เพื่อนๆทราบ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ นั่นคือผลการจัดอันดับมหาเศรษฐีของเมืองไทย ในปี 2550 ล่าสุดนี้ ลองอ่านดูนะครับว่าเป็นใครบ้าง

อันดับ 1
ตระกูล สิริวัฒนภักดีบริษัท ที.ซี.ซี. กรุ๊ป (โฮลดิ้ง)ทรัพย์สิน 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 2
ตระกูล อยู่วิทยาธุรกิจ เรดบูล ทรัพย์สิน พันล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 3
ตระกูล เจียรวนนท์กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซี.พี.ทรัพย์สิน 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 4
ตระกูล ดำรังชัยธรรม กลุ่มบริษัทสื่ออันดับ1ของไทย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ทรัพย์สิน 5.6 หมื่นล้านบาท
อันดับ 5
ตระกูลของคุณ บัณทูร ล่ำซำ กลุ่มเครือธนาคารกสิกรไทย ทรัพย์สิน 4.9 หมื่นล้านบาท
อันดับ 6
ตระกูล จิราธิวัฒน์กลุ่มบริษัท เครือ เซ็นทรัลทรัพย์สิน 4.4 หมื่นล้านบาท
อันดับ 7
ตระกูล รัตนรักษ์ กลุ่มบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวงทรัพย์สิน 3.5 หมื่นล้านบาท
อันดับ 8
ว่องกุศลกิจกลุ่มบริษัท อัมรินทร์ฯ ทรัพย์สิน 3.2 หมื่นล้านบาท
อันดับ 9
ตระกูล มาลีนนท์กลุ่มบริษัท บีอีซีทรัพย์สิน 2.2 หมื่นล้านบาท
อันดับ 10
ตระกูล “ภิรมย์ภักดีทรัพย์สิน 1.8 หมื่นล้านบาท

ที่มา : http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5607089/A5607089.html

สำหรับอดีตนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ ชินวัตร ตอนนี้ตกไปอยู่ในลำดับที่ 14 ครับ

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

มนุษย์เงินเดือนเฮ ครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีหักค่าใช้จ่าย 60%

มีผลบังคับใช้แล้ว. (มีผลบังคับใช้ในปี 2550)
มนุษย์เงินเดือนเฮ ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินหักลดหย่อยค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็น 60% แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท จากเดิม 40% แต่ไม่เกิน 6 หมื่น ผู้มีเงินเดือนต่ำกว่า 19,166 บาทต่อเดือนไม่ต้องเสียภาษี พร้อมออกตัวไม่ใช่นโยบายหาเสียงเป็นเรื่องที่สรรพากรหารือมานานแล้ว
ขอสรุปข้อมูลเป็นการคำนวณภาษีเงินได้ตัวย่างเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นว่ามีวิธีคำนวณการอย่างไรและมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราได้ประโยชน์อะไรบ้าง


การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เดิม ( 15,833 / เดือน) ใหม่( 19,166 / เดือน)
(1) เงินได้พึงประเมินทุกประเภทรวมกันตลอดปีภาษี
เดิม( 190,000.00 ) ใหม่( 230,000.00 )
(2) หัก ค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด (ร้อยละ 40 ไม่เกิน 60,000.-)
เดิม( 60,000.00 ) ใหม่( 100,000.00 )
(ร้อยละ 60 ไม่เกิน 100,000.-)
(3 ) = (1)-(2) เหลือเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย
เดิม( 130,00000 ) ใหม่( 130,000.00 )
(4) หัก ค่าลดหย่อนต่าง ๆ (ลดหย่อนผู้มีเงินได้ 30,000.-)
เดิม( 30,000.00 ) ใหม่( 30,000.00 )
(5 )= (3)-(4) เหลือเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนต่าง ๆ
เดิม( 100,000.00 ) ใหม่( 100,000.00 )
(6) หัก ค่าลดหย่อนเงินบริจาค ไม่เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด
เดิม( 0.00 ) ใหม่( 0.00 )
(7) = (5-6) เหลือเงินได้สุทธิ
เดิม( 100,000.00 ) ใหม่( 100,000.00 )
นำเงินได้สุทธิตาม ( 7) ไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
จำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เดิม( 0.00 ) ใหม่( 0.00 )

(ผู้มีเงินได้เท่ากับหรือน้อยกว่า 19,166 ต่อเดือนหรือ 230,000 ต่อปี หักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนเพียง 2 รายการนี้เท่านั้น ก็ไม่ต้องเสียภาษีแล้ว)
**สรุปผลประโยชน์ที่ได้รับ**
ผู้ที่ต้องเสียภาษี 5% รายได้ ไม่ต้องเสียภาษี (เหมือนเดิม)
ผู้ที่ต้องเสียภาษี 10% รายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี

อาจจะอ่านงงๆหน่อยนะครับ แต่ลองอ่านให้เข้าใจ เพื่อประโยชน์ของท่านเอง

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

วันนี้ผมมีข่าวสารที่น่าสนใจมาฝากทุกๆท่าน โดยเฉพาะกับน้องๆ นักเรียน นักศึกษา เพื่อเป็นความรู้ เผื่อว่าหลายคนจะไม่ได้ติดตามข่าวสารจากสื่อ
ผลการประกาศผลการคัดเลือก 7 สิ่งสหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ณ สนามกีฬาเอสตาดิโอ ดา ลุช ในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เมื่อเวลา 21.30 น.ของวันที่ 7 ก.ค.50 ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งผลออกมาได้ดังนี้
1. ชิเชน อิตซา คาบสมุทรยูคาตาน ประเทศเม๊กซิโก
2. รูปปั้นพระเยซูคริสต์ ในนครริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล
3. มาซู ปิกชู ประเทศเปรู
4. กำแพงเมืองจีน ประเทศจีน
5. เปตรา ประเทศจอร์แดน
6. ทัชมาฮาล เมืองอักรา ประเทศอินเดีย
7. สนามกีฬาโคลอสเซียม กรุงโรม ประเทศอิตาลี

เป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านพอทราบใหมว่า สิ่งใดยังคงอยู่ สิ่งใดหลุดโผ สิ่งใดเข้ามาใหม่ วิเคราะห์กันเองนะครับ แต่ที่แน่ๆ ประเทศที่ติดอันดับ 1 ใน 7 นั้น ได้ออกมาเฉลิมฉลองกันยกใหญ่ โดยเฉพาะประเทศอินเดีย สำหรับรายละเอียดและรูปภาพ จะนำมาลงให้อ่านในโอกาสต่อไปครับ

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

Harry Potter 7

พบกันอีกแล้วนะครับ วันนี้ผมจะพูดถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ผมผมได้ติดตามดูทุกภาค และประทับใจมากทั้งเนื้อหาและความบันเทิง นั่นคือหนังเรื่อง Harry Potter นั่นเอง
ที่กล่าวนี้ก็เพราะว่าในเดือนนี้หนังเรื่องนี้กำลังจะออกฉายให้คนไทยได้รับชมอีกแล้ว เริ่มประมาณวันที่ 11 ก.ค.50 นี้ (วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี่เองครับ) ตอนนี้มีชื่อว่า Harry Potter and the Deathly Hallows ซึ่งครั้งนี้ได้ข่าวว่าจะเป็นตอนจบจริงๆ (ไม่ยืนยันนะครับ) และถ้าเป็นจริงก็คงเสียดายนะครับ แต่ว่าเรายังมีอนุสรณ์ที่ระลึกของหนังเรื่องนี้นั่นคือหนังสือนั่นเอง
ผมได้สะสมหนังสือของ Harry Potter มาตั้งแต่เล่มแรกทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ติดตามมันทุกภาค สำหรับเล่มล่าสุดคือเล่ม 7 ภาคภาษาอังกฤษต่างประเทศได้วางจำหน่ายแล้ว หากท่านต้องการที่จะสั่งซื้อ สามารถคลิ๊กได้ที่นี่ทันที Harry Potter and the Deathly Hallows (Book 7) สำหรับภาคภาษาไทยตอนนี้ใกล้คลอดแล้วครับ
หรือหากว่าบางท่านยังไม่เคยซื้อเก็บไว้เลย เขาจะมีแบบเป็นชุดมาจำหน่ายเช่นกันภาคภาษาอังกฤษนะครับแนะนำไปที่นี่ได้เลย Harry Potter Paperback Box Set (Books 1-6)
อย่าลืมนะครับสำหรับแฟนพันธ์แท้ Harry Potter (รวมผมด้วย) ต้องไม่พลาดวันที่ 11 ก.ค.นี้ ที่โรงภาพยนต์ใกล้บ้านท่าน พร้อมหนังสือที่ระลึก แล้วพบกันใหม่ครับ

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

การจับหอยหลอด

วันนี้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อพักผ่อนในวันหยุด ที่นั่นมีอาหารน่าทานมาก ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหอย เช่น หอยหวาน หอยสด หอยเชลล์ หอยทอดกรอบ หรือ พวกปลาหมึก แม้กระทั่งขนมจาก ซึ่งล้วนอร่อยทั้งนั้น รวมทั้งหอยหลอดที่ขึ้นชื่อที่ผมกำลังจะพูดถึง
หลังจากทีเดินดูและซื้อของตามต้องการแล้ว ผมได้ลงไปยังดอนที่เขาจับหอยหลอดกัน นักท่องเที่ยวต่างก็พากันลงไปเพื่อลองหาและจับมันดู ที่นี่สามารถเดินลุยน้ำไปได้เพราะไม่ลึก หรือจะนั่งเรือยาวไปก็ได้ เพียงเที่ยวละ 10 บาทเองจะอยู่นานเท่าไรก็ได้ ผมลองลงไป การจับหอยหลอดทำได้อย่างง่ายในช่วงน้ำแห้ง โดยสังเกตุเห็นรูเล็ก ๆ ที่หอยทำไว้เพื่อหายใจ หรือการใช้ฝ่ามือและปลายนิ้วจิ้มไปบนพื้นดอน หอยหลอดก็จะเปิดรูดังกล่าวให้เห็น การจับหอยหลอดจะใช้ปลายไม้เล็ก ๆ จิ้มปูนขาวที่ละลายน้ำเมข้นจิ้มลงในรู เมื่อหอยหลอดได้รับฤทธิ์ของปูนขาวก็จะโผล่พ้นพื้นดินทรายออกมาให้จับ แต่มีนักท่องเที่ยวหลายคนยังไม่ทราบวิธีที่ถูกต้องจึงไม่สามารถจับได้ บางคนใช้เวลาเป็นชั่วโมงก็ไร้ผลจนท้อแท้ถึงขนาดกลับขึ้นฝั่งเลย แต่พวกเขาไม่ได้เสียใจอะไรหรอกครับ กลับสนุกซะอีก ถึงไม่ได้ก็คิดว่าเป็นประสบการณ์ หาเล่นๆไปงั้นแหละ

คุณเชื่อหรือไม่?

วันนี้ผมมีเกร็ดความรู้เล็กน้อยมาฝาก เนื่องจากช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยโดยเฉพาะฝนฟ้าซึ่งได้ตกลงมาแทบจะทุกวัน บางวันก็หนักมาก เหตุนี้จึงเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะเกี่ยวกับการมองเห็นทาง
ผมได้รู้การแก้ปัญหาเกี่ยวเรื่องนี้ คุณเชื่อไหมว่าแว่นตาดำสามารถช่วยท่านได้ระดับหนึ่ง ซึ่งผมได้ลองมาแล้ว ขณะที่ฝนตกหนัก ผู้ขับขี่สามารถใส่แว่นตากันแดดขับรถได้โดยที่เราจะสามารถมองเส้นทางได้ชัดกว่าการไม่ใส่แว่น ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน บางคนอาจจะรู้แล้ว แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบ สามารถลองได้ครับ ไม่ผิดกฏหมาย แต่อย่าลืมสิ่งสำคัญ อย่าประมาทครับ